โรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive compulsive disorder: OCD)




ในปัจจุบันจะเห็นว่าเราพูดคำว่าเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ หรือ OCD กันค่อนข้างบ่อย และโดยส่วนใหญ่จะให้ความรู้สึกกับคำนี้ค่อนข้างเป็นไปในทางบวก เช่น แกนี่เป็นคนเป๊ะกับงานมาก ปล่อยไปไม่ได้เลย สงสัยจะเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ” ซึ่งถือเป็นการชื่นชมเป็นนัย ๆ ว่าทำงานดี หรือบางครั้งใช้เป็นคำพูดล้อเล่นหรือล้อเลียน เช่น ยังไงกัน แกเดินไปเช็กประตูอีกละเหรอ สงสัยจะเป็นเป็น OCD” แต่หากใครก็ตามป่วยเป็นโรคนี้จริง ๆ แล้วล่ะก็ จะไม่มีความสุขหรอก ส่วนใหญ่คนเหล่านี้จะทุกข์กับอาการของตนมากกว่า

โรคย้ำคิดย้ำทำนั้น จริง ๆ แล้วแบ่งเป็น เรื่องหลักตามชื่อโรคเลยครับ คือย้ำคิดกับย้ำทำ โดยจะเกิดอาการย้ำคิดก่อน เช่น คิดวน ๆ ซ้ำ ๆ ไปว่า สกปรก” พื้นตรงนี้มันสกปรก หรือมือนี่มันสกปรก โดยคิดวน ๆ ซ้ำ ๆ แบบนี้ ทำให้เกิดความวิตกกังวล ไม่สบายใจ ทุกข์ใจ จนต้องจัดการกับความรู้สึกวิตกกังวลหรือความทุกข์ใจเหล่านี้ด้วยการกระทำอะไรบางอย่าง และการที่จะช่วยลดความคิดว่ามือสกปรกได้คือการล้างมือ ดังนั้นเมื่อไปล้างมือความวิตกก็จะลดลง แต่ลดลงไปประเดี๋ยวเดียวความคิดเหล่านี้ก็จะวนกลับมาอีก ทำให้ต้องกลับไปล้างมืออีก เป็นแบบนี้ซ้ำ ๆ จึงทำให้เราเรียกมันว่าอาการ “ย้ำคิดย้ำทำ นั่นเอง

อาการเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค บางคนอาจเพียงแค่ย้ำคิดแต่จัดการกับความรู้สึกของตนเองได้จึงไม่ได้แสดงออกมาเป็นอาการย้ำทำก็มี เช่น บางทีเราเห็นใครบางคนเดินผ่าน (อาจเป็นคนที่รู้จัก เป็นคนที่มีอำนาจเหนือตนเอง) มักจะมีภาพ เสียงคำ หรือพูดดังขึ้นมาในหัวเรา เช่น แทง หรือ “ตบ หรือบางครั้งที่ไปอยู่ในที่สูง ๆ เช่น บนตึก หรือบนภูเขาสูง อาจมีเสียงดังในหัวว่า โดด หรือ ตก ซึ่งเสียงเหล่านี้เราไม่ได้ตั้งใจพูดหรือไม่ได้ต้องการให้มันดังอยู่แบบนี้ มันมักเกิดขึ้นเอง แต่เราจัดการกับมันได้เราจึงไม่ได้เดินไปตบเจ้านาย ไม่ได้กระโดดลงจากตึก แต่ก็จะมีบางครั้งที่เสียงเหล่านี้มันหลุดออกมาจากปากเราและทำให้เกิดปัญหาตามมา หากเกิดกรณีเหล่านี้อาจต้องมีการจัดการหรือไปหาแหล่งช่วยเหลือที่ถูกต้องครับ

แต่บางคนก็ตั้งข้อสงสัยว่า ที่ทำอยู่นี้จริง ๆ แล้วมันคืออาการย้ำคิดย้ำทำหรือเป็น Perfectionist เช่น จัดของในบ้านเป็นวัน ๆ แบบนี้มันคืออะไรกันแน่ วิธีการที่จะช่วยให้เราเช็คตัวเองนั่นคือ ให้ถามตัวเองว่าที่ทำอยู่นี้มีความสุขไหม หรือสบายใจไหมที่ทำแบบนี้ หากตอบตัวเองได้ว่า ฉันโอเค ฉันสบายใจ และฉันภูมิใจที่ได้จัดห้องให้มันเป็นระเบียบและสวยงามตามที่ฉันต้องการ (คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ควรทำหรือต้องทำ) ถ้าเป็นแบบนี้สบายใจได้ว่ามันโอเคไม่ได้กระทบชีวิตคุณ แต่หากเราตอบตัวเองว่าที่ทำอยู่นี่มันคืออะไร ทำไมฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้เป็นวัน ๆด้วย ฉันเอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้ตั้งเยอะ อยากหยุดทำนะ แต่มันหยุดไม่ได้ (คิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ แต่หยุดตัวเองไม่ให้ทำไม่ได้) อาการหล่านี้แหละทำให้เราทุกข์ ไม่สบายใจ ซึ่งมันเป็นอาการของการย้ำคิดย้ำทำ และเราควบคุมตนเองไม่ได้ หากเป็นเช่นนี้แล้วแนะนำให้พบแพทย์ได้แล้วครับ


หลังจากนี้ขอเป็นแนววิชาการหน่อยนะครับ มาดูกันครับว่าโรคย้ำคิดย้ำทำนั้นมีอาการทางคลินิก เกณฑ์การวินิจฉัย และการรักษาอย่างไรครับ

อาการทางคลินิก
โรคนี้จะมีลักษณะอาการสำคัญ 2 ประการ คือ 
            ย้ำคิด (Obsession) คือการมีความคิดหรือความรู้สึกที่เกิดขึ้นเองซ้ำ ๆ โดยไม่มีเหตุผล และทำให้เกิดความกังวลใจ ไม่สบายใจ เช่น คิดซ้ำ ๆ ว่าลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คิดซ้ำ ๆ ว่าลืมปิดแก๊สหรือลืมล็อกประตูบ้าน
            ย้ำทำ (Compulsion) คือการกระทำบางอย่างซ้ำ ๆ เพื่อลดความกังวลใจหรือความไม่สบายใจจากการย้ำคิด เช่น เช็กที่ปิดเปิดแก๊สกับลูกบิดประตูซ้ำ ๆ หรือล้างมือซ้ำ ๆ เพราะกังวลและไม่สบายใจว่ามือสกปรกหรือมีเชื้อโรค

เกณฑ์การวินิจฉัย
A. มีอาการย้ำคิด และ/หรือย้ำทำ
อาการย้ำคิด
1. มีความคิดเกิดขึ้นซ้ำ ๆ และคงอยู่นาน โดยอาการดังกล่าวผุดขึ้นมาเอง โดยผู้ป่วยไม่ต้องการให้เกิด ทำให้เกิดความกังวลหรือทุกข์ใจมาก
2. ผู้ป่วยพยายามเพิกเฉย คิดหรือทำสิ่งอื่นทดแทน ทำให้เกิดการย้ำทำ (เพื่อลดความกังวลหรือทุกข์ใจ)
อาการย้ำทำ
1. พฤติการณ์หรือการกระทำในใจ เพื่อตอบสนองต่อการย้ำคิด
2. การกระทำนี้มีขึ้นเพื่อป้องกันหรือลดความกังวลและความทุกข์ใจ
     หมายเหตุ ในเด็กอาจไม่สามารถบอกถึงเป้าหมายของอาการย้ำทำได้
B. อาการย้ำคิดหรือย้ำทำ ทำให้สิ้นเปลืองเวลาเพราะมักจะต้องเสียเวลากับการย้ำคิดย้ำทำมากกว่า ชั่วโมง/วัน เกิดความทุกข์ใจและทุกข์ทรมาน รบกวนต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การทำงาน หรือการเรียน

การรักษา
การรักษาโดยไม่ใช้ยา เน้นพฤติกรรมบำบัด โดยให้ผู้ป่วยเผชิญกับความวิตกกังวล (อาการย้ำคิด) และให้อยู่กับความวิตกกังวลนั้นโดยไม่ตอบสนอง (อาการย้ำทำ) เรียกกระบวนการนี้ว่า Exposure and Response Prevention (ERP) ร่วมกับการทำ Cognitive behavior therapy (CBT) เพื่อเปลี่ยนความคิดที่ทำให้วิตกกังวล
การรักษาด้วยยา เน้นยากลุ่ม SSRI เช่น Fluoxetine หากไม่ได้ผลภายใน 12 สัปดาห์ เปลี่ยนเป็นยา Clomipramine การรักษาควรต่อเนื่อง 12 เดือน เพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ จากนั้นค่อยลดขนาดยา

By Natthapon Inta, BNS, RN

เอกสารอ้างอิง
ณัฐพล อินต๊ะและสุภาพร ปทุมานนท์. (2563). สรุปเนื้อหาสาระวิชาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช.กรุงเทพฯคณะพยาบาลศาสตร์ วิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์
ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์.
ผกาพันธุ์ วุฒิลักษณ์. (บ.ก.). (2559). สรุปสาระทบทวนหมวดวิชาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช. เชียงใหม่สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
มาโนช หล่อตระกลและปราโมทย์ สุคนิชย์. (บ.ก.). (2558). จิตเวชศาสตร์ รามาธิบดี (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล.
ยาใจ สิทธิมงคลพวงเพชร เกษรสมุทรนพพร ว่องสิริมาศ, อทิตยา พรชัยเกตุ โอว ยอง. (บ.ก.). (2561). การพยาบาลจิตเวชศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯโครงการตำราคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
อธิษฐาน กาญจนะพงศ์ (ผู้อำนวยการผลิต). (2561)สิ่งของต้องวางเป๊ะ ล้าง ปิด เช็กอะไรซ้ำ ๆ เราเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำหรือเปล่า [ออดิโอ พอดแคส]. ค้นจาก https://thestandard.co/podcast/ruok05/

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วิธีการและขั้นตอนการสมัครสอบ NCLEX เพื่อรับใบประกอบวิชาชีพการพยาบาล (RN License) ในอเมริกา

พยาบาลวิชาชีพในประเทศอังกฤษ (Registered nurses in the UK)

การเรียนต่อระดับปริญญาโทด้านการพยาบาลในต่างประเทศ